เริ่มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล พร้อมทุกข้อมูลที่คุณต้องรู้ก่อนการเทรด
ในปัจจุบัน สกุลเงินดิจิทัล ได้กลายมาเป็นสิ่งที่น่าสนใจ และเป็นที่น่าจับตามองในหมู่นักลงทุน โดยการแลกเปลี่ยนซื้อขายค่าเงินดังกล่าว ได้รับความนิยมมากในช่วงที่อินเทอร์เน็ตเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตประจำวันของมนุษย์ จนคนเราสามารถทำธุรกรรมทางการเงิน หรือซื้อขายแลกเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ได้ ผ่านทางโลกออนไลน์
แต่สำหรับคนที่เพิ่งก้าวเท้าเริ่มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล อาจจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างสับสนเล็กน้อย เพราะก่อนที่จะเชี่ยวชาญด้านการเทรดนั้น คุณจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วน และแน่นอนว่าบทความนี้ จะมาแบ่งปันความรู้ เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอย่างถูกต้อง
การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลและสกุลเงินดิจิทัลคืออะไร และจะเริ่มทำการซื้อขายได้อย่างไร
ก่อนที่คุณจะศึกษาและเรียนรู้การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล คุณจำเป็นต้องเรียนรู้ความหมายพื้นฐานของสกุลเงินดิจิทัลและการซื้อขายแลกเปลี่ยนเสียก่อน เพื่อให้คุณเข้าใจ และสามารถนำไปต่อยอดได้อย่างถูกต้อง
การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล และสกุลเงินดิจิทัล คืออะไร
สกุลเงินดิจิทัล เป็นสกุลเงินแบบเสมือน ที่มีการล็อกรหัสบล็อกเชนเพื่อความปลอดภัย จนไม่สามารถทำการขโมย ปลอมแปลง หรือลอกเลียนแบบ จึงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีความปลอดภัยมากที่สุด โดยสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาในยุคแรก ๆ และยังคงได้รับความนิยมอยู่ คือ บิทคอยน์ แต่ในปัจจุบัน ก็มีสกุลเงินมากมายในโลกออนไลน์ ดังนั้น การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล คือ การทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินนั่นเอง
เริ่มทำการซื้อขายได้อย่างไร
หกคุณต้องการเริ่มการซื้อขาย cryptocurrency คุณสามารถเริ่มได้ 2 วิธี ดังนี้
- ซื้อขายเหรียญดิจิตอลผ่านเว็บเทรดสกุลเงินดิจิตอล
ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นทำการเทรดด้วยวิธีนี้ คุณอาจจะต้องมีกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์เสียก่อน จากนั้นให้คุณไปเปิดบัญชีบนเว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัล เมื่อเปิดบัญชีเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถทำการซื้อเหรียญสกุลเงินดิจิทัลได้เลยทันที โดยหลังจากที่คุณได้ครอบครองเหรียญสกุลเงินดิจิทัลแล้ว นั่นหมายความว่าคุณจะเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของสกุลเงินดิจิทัลทันที และสามารถแสวงหากำไรจากมันได้ - เทรดสกุลเงินดิจิตอลผ่านโบรกเกอร์
อีกวิธีหนึ่งในการเทรดสกุลเงินดิจิทัล คือการใช้บริการเทรดผ่านโบรกเกอร์ การเลือกนายหน้านั้นถือว่าเป็นวิธีนี้เป็นวิธีที่ค่อนข้างเป็นที่นิยม โดยการซื้อขายรูปแบบนี้คุณสามารถเก็งกำไรในราคาของสกุลเงินดิจิทัลได้ แต่ไม่ต้องเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลนั้น ๆ โดยทางลูกค้าจะบริการลูกค้า สนับสนุนลูกค้าเป็นอย่างดี
สิ่งที่คุณต้องการในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
ด้วยมูลค่าของ cryptocurrency ที่พุ่งสูงขึ้นในทุก ๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม จึงมีผู้คนจำนวนมากขึ้นทั่วโลกตัดสินใจผันตัวเองเข้าเริ่มลงทุนใน crypto แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงเริ่มต้นของการซื้อขาย crypto นั้น อาจจะเป็นช่วงที่ดูสับสน เนื่องจากกระบวนการซื้อขายนั้นมีความแตกต่างจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนโดยทั่ว ๆ ไป และไม่เหมือนกับที่เหล่านักลงทุนคุ้นเคย และในวันนี้ เราจะสรุปวิธีเริ่มต้นการซื้อขาย cryptocurrency สำคัญ ๆ 4 ขั้นตอน ที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นการซื้อขาย crypto ของคุณได้อย่างง่ายดาย และเริ่มต้นการซื้อขายอย่างถูกต้อง cryptocurrency
- ขั้นตอนที่ 1 เลือกสกุลเงินที่ต้องการ
ก่อนที่คุณจะไปถึงขั้นเรียนรู้กลยุทธ์การเทรด คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณจะเทรดเงินสกุลใด เพื่อที่คุณจะได้ศึกษาเจาะลึกไปในสกุลเงินที่คุณต้องการนั้น ๆ - ขั้นตอนที่ 2 เลือกบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์
การซื้อขายแลกเปลี่ยนในตลาด cryptocurency นั้น จำเป็นจะต้องมีตัวกลางในการโอนเงินระหว่างกัน ดังนั้น หลังจากที่คุณเลือกได้แล้วว่าคุณจะทำการเทรดคริปโทเคอร์เรนซีตัวไหน ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องเลือกใช้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณจัดเก็บและส่งเหรียญ crypto ไปมาระหว่างกันได้
ปัจจุบันมีกระเป๋าเงินดิจิทัลมากมายหลายประเภท (ทั้งในรูปแบบแอปพลิเคชันบนมือถือ เดสก์ท็อป ฮาร์ดแวร์ และในรูปแบบกระดาษ) ซึ่งเมื่อคุณมีการเชื่อมต่อบัญชีกับกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์แล้วนั้น คุณก็พร้อมที่จะทำการเทรดได้โดยในทันที
- ขั้นตอนที่ 3 ค้นหาแหล่งข้อมูล
สกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ซึ่งราคานั้นสามารถเพิ่มขึ้นและลดลงเป็นเปอร์เซ็นต์จำนวนมากในเวลาไม่กี่ชั่วโมง การเคลื่อนไหวดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายเหตุการณ์ ดังนั้น ผู้ค้า crypto จะต้องติดตามข้อมูลตลาดอย่างต่อเนื่อง - ขั้นตอนที่ 4 ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์
เมื่อคุณมีความรู้และมีเครื่องมือสำหรับการซื้อขายทำกำไรแล้ว สิ่งหนึ่งที่คุณควรมี คือการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เป็นประโยชน์ ลองค้นหาดูว่ามีเทคโนโลยีหรือเครื่องมือใดบ้างที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณในการเทรด ลองศึกษา เรียนรู้วิธีใช้ เพื่อให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันมีเว็บไซต์โบรกเกอร์มากมายที่ให้บริการทั้งบนเดสก์ทอปบนคอมพิวเตอร์และแอปพลิเคชันบนมือถือ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเทรดทุกที่ ทุกเวลา โดยคุณสามารถเปิดบัญชีทดลองที่คุณจะได้รับประสบการณ์การเทรดเสมือนจริง หลังจากที่คุณเริ่มคุ้นเคยกับการเทรดแล้วคุณก็สามารถอัปเกรดบัญชีซื้อขาย และทำการฝากเงินขั้นต่ำและเติมเงินฝากได้เรื่อย ๆ หลังจากนั้นคุณก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อกองทุนและทำการถอนเงินได้
สกุลเงินดิจิทัลที่ซื้อขายได้หลัก
สำหรับสกุลเงินที่สามารถทำการซื้อขายได้นั้น มีดังนี้
- Ethereum
สกุลเงินที่ใช้ได้กับธุรกิจประเภทต่าง ๆ ไม่จำกัดแค่ธุรกรรมทางการเงินเท่านั้น - Litecoin
สกุลเงินดิจิทัลที่คล้ายคลึงกับ Bitcoin มีความโดดเด่นในเรื่องของความรวดเร็วในการทำธุรกรรม - Ripple
เครื่อข่ายบล็อกเชนในการชำระเงิน ช่วยให้ผู้ค้าสามารถรวมโปรโตคอลเข้ากับระบบของตนเองได้ - Bitcoin
สกุลเงินที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ก่อตั้งมานานที่สุด และยังคงกระแสความนิยมไว้ได้อย่างต่อเนื่อง - Bitcoin Cash
เป็นเหรียญสกุลดิจิทัลที่เกิดจากการแตกเครือข่ายสาขามาจากเหรียญบิทคอยน์ - Stellar
เป็นการนำ Blockchain เข้ามาช่วยให้การโอนเงินถูกลง รวดเร็ว และแลกเปลี่ยนสกุลเงินได้ในระบบทันที - Cardano
แพลตฟอร์มที่เรียบง่าย สร้างขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงและพัฒนา Cryptocurrency ให้มีรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม - IOTA
ถูกสร้างขึ้นมาจากแนวคิดเพื่อใช้อินเทอร์เน็ตเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงิน - NEO
เครือข่ายเศรษฐกิจอัจฉริยะ เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนยุคใหม่ - Monero
สกุลเงินดิจิทัลที่สามารถใช้งานได้ โดยไม่จำเป็นต้องระบุตัวตน
วิธีวิเคราะห์ คริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrencies)
ในขอบเขตของการวิเคราะห์ cryptocurrency กลยุทธ์คือสิ่งสำคัญที่จะเป็นโอกาสในการทำกำไรของคุณ แต่ความสามารถในการอ่านตลาดถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกกลยุทธ์ที่จะใช้ ดังนั้นเราจะแบ่งรูปแบบการวิเคราะห์หลัก 2 รูปแบบ ได้แก่ การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐาน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
นักวิเคราะห์มีเป้าหมายที่จะสร้างภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของตลาดโดยดูข้อมูลตลาดในอดีต โดยการจดจำและบันทึกผลลัพธ์เพื่อสร้างเป็นสถิติเพื่อการคาดเดาการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต เมื่อทำได้แล้วพวกเขาจะทำการคาดการณ์โดยคำนวณตามแนวโน้มขาลงหรือขาขึ้นของตลาด
ลักษณะทั่วไปของการวิเคราะห์ทางเทคนิคถือว่าการเคลื่อนไหวของกราฟราคาในตลาดไม่ได้เป็นแบบสุ่ม รูปแบบในอดีตจะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ และจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต
โดยหลักแล้ว การวิเคราะห์ทางเทคนิค ผู้คนจะดูอุปสงค์และอุปทาน นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจะติดตามแนวโน้มนั้นเพื่อต่อต้าน สมมติว่าตลาดอยู่ในภาวะตลาดกระทิง แต่ไม่ได้อยู่ในตลาดหมีมาระยะหนึ่งแล้ว นั่นอาจส่งผลให้อุปทานเหรียญลดลงเนื่องจากมีความต้องการสูง ในทางกลับกันราคาอาจเพิ่มขึ้น เมื่อราคาสูงขึ้นผู้คนจะพยายามทำกำไรด้วยการขายเหรียญของพวกเขาและคาดหวังว่าตลาดขาลงจะมาถึง เมื่อมีคนขายมากขึ้นในที่สุดอุปทานก็จะเริ่มมีมากกว่าอุปสงค์ทำให้ราคาลดลง และจากนั้นวงจรยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ
ตัวชี้วัดทางเทคนิคนั้นมีอยู่มากมายหลากหลายรูปแบบ แต่ในวันนี้ เราจะมาพูดคุยแบ่งปันกันถึงตัวชี้วัดที่สำคัญ ๆ และมีบทบาทมากที่สุดในการซื้อขายแลกเปลี่ยน Cryptocurrency
- ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) เป็นการคำนวณค่าเฉลี่ยของราคาหุ้น โดยใช้ข้อมูลย้อนหลังตามระยะเวลาที่เรากำหนด
- ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ Convergence Divergence (MACD) หนึ่งในเครื่องมือทางเทคนิคที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
- ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เอกซ์โปเนนเชียล (EMA) เป็นการทำราคาเฉลี่ยของสินทรัพย์ทางการเงินในช่วงเวลาหนึ่ง และดูว่าในท้องตลาดนั้นกำลังมีแนวโน้มอยู่ในภาวะตลาดหมีหรือตลาดกระทิง
- ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่คอนเวอร์เจนซ์ไดเวอร์เจนซ์ (MACD) เป็นตัวชี้วัดที่ระบุโซนซื้อมากเกินไปและโซนขายมากเกินไป
- แถบ Bollinger ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ใช้ในการหาสัญญาณการกลับตัว
- ดัชนีความแข็งแรงสัมพัทธ์ (RSI) คือตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่วัดการเคลื่อนไหวของราคา
- ดัชนีทิศทางเฉลี่ย (ADX) เป็นตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งของแนวโน้ม ขึ้นอยู่กับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของการขยายช่วงราคาในช่วงเวลาซื้อขายที่กำหนด
- Fibonacci retracement เป็นค่าหรืออัตราที่สมส่วนในทางคณิตศาสตร์เพื่อวัดเป้าหมายของราคาในทิศทางนั้นๆ
การวิเคราะห์พื้นฐาน
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเมื่อเทียบกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้วนั้น การวิเคราะห์ประเภทนี้เป็นแนวทางที่ดู "ภาพรวม" มากกว่า แทนที่จะดูสถิติในอดีต นักวิเคราะห์พื้นฐานจะตรวจสอบมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์อย่างละเอียด โดยการรวบรวมปัจจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณที่เป็นไปได้ทั้งหมด
หากคุณเห็นว่าสินทรัพย์มีมูลค่าสูงเกินไปคุณสามารถซื้อขายเพื่อทำกำไรเมื่อราคาลดลง เรียกว่า shorting คือ กลยุทธ์การซื้อขายที่เก็งกำไรจากการลดลงของสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม การเทรดสไตล์นี้มีความเสี่ยงทางการเงินและควรทำโดยผู้ที่มีประสบการณ์เท่านั้น
การวางแผนการค้า
ก่อนที่คุณจะทำการเทรดใด ๆ สิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม คือการวางแผนการเทรดของคุณ เพื่อให้คุณได้ทราบทุกความเคลื่อนไหว และติดตามผลเพื่อสามารถนำไปใช้ได้ในการเทรดในอนาคต
ฝึกฝน เรียนรู้ให้เข้าใจ
เรียนรู้และทำความเข้าใจกับสกุลเงินที่คุณต้องการเทรด รวมถึงวางแผนทุก ๆ ขั้นตอน แนะนำให้เขียนลงในกระดาษสักหนึ่งแผ่น เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
รู้ว่าเมื่อใดที่ควรหยุดการสูญเสีย
สิ่งนี้สำคัญพอ ๆ กับการเข้าเทรด คุณจำเป็นต้องประเมินและกำหนดระดับความเสี่ยง และรู้ว่าควรหยุดซื้อ จำกัด หยุดขายตอนไหน คุณสามารถใช้ระดับแนวรับเส้นแนวโน้มหรือระดับตามระดับ Fibonacci การรวมกันของตัวบ่งชี้หลายตัวจะให้ระดับ Stop Loss ที่ดีที่สุด
ระบุจุดออก
การระบุจุดออกเพื่อจองผลกำไรล่วงหน้าก็เป็นส่วนสำคัญของแผนการซื้อขาย คุณสามารถระบุเป้าหมายได้มากกว่าหนึ่งเป้าหมาย แต่คุณต้องยึดติดกับเป้าหมายนั้น อย่าโลภมาก เพราะนักเทรดหลาย ๆ คนสูญเสียกันไปมากมายกับความโลภของตัวเอง
ประเมินผลตอบแทนความเสี่ยง
การประเมินผลตอบแทนความเสี่ยงของการซื้อขายวงเงินก่อนเข้าสู่การซื้อขายเป็นส่วนสำคัญในการบริหารความเสี่ยงในการซื้อขาย คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตั้งค่าการซื้อขายของคุณมีความสามารถในการทำกำไรสูงกว่าการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นหลายเท่าการซื้อขายแบบถลกหนัง
ดำเนินการตามแผน
การดำเนินการตามแผนที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้มีความสำคัญมาก เพราะคุณจะทราบได้ว่าในแต่ละขั้นตอนนั้น คุณทำอะไรลงไปบ้าง และยังสามารถเก็บไว้ใช้อ้างอิงในการเทรดในอนาคตได้อีกด้วย
กลยุทธ์การซื้อขายทั่วไป
กลยุทธ์การซื้อขายทั่ว ๆ ไป ที่เป็นที่นิยมนั้นต้องใช้เวลาและความสนใจเป็นอย่างมากในการสังเกต เพราะจะช่วยให้คุณสามารถติดตามอย่างต่อเนื่องและการจัดการทางการเงินของคุณได้บ่อย ๆ กลยุทธ์การซื้อขายทั่วไป มีดังนี้
การซื้อขายรายวัน
การซื้อขายวันเกี่ยวข้องกับการเข้าและออกจากตำแหน่งในวันเดียวกัน ด้วยเหตุนี้นักเทรดรายวันจึงมักมุ่งหวังที่จะใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาระหว่างวัน ซึ่งนั่นก็คือการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นภายในหนึ่งวันซื้อขาย
การซื้อขายสวิง
การซื้อขายแบบสวิงเป็นกลยุทธ์การซื้อขายระยะยาวที่ไม่ใช่การซื้อขายระยะสั้นประเภทหนึ่ง เป็นการเทรดนานกว่าหนึ่งวัน แต่โดยทั่วไปแล้วจะไม่เกินสองสามสัปดาห์หรือหนึ่งเดือน ในบางวิธี ตำแหน่งการซื้อขายแบบนี้จะอยู่ตรงกลางระหว่างการซื้อขายระหว่างวันและการซื้อขายตามแนวโน้ม
การซื้อขายแบบถลกหนัง
เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ตัวอย่างเช่น การทำกำไรจากส่วนต่าง ราคาเสนอ ราคาช่องว่างในสภาพคล่อง หรือความไร้ประสิทธิภาพอื่น ๆ ในตลาด
ซื้อและถือ
เป็นกลยุทธ์การลงทุนแบบแฝง ที่ผู้ค้าซื้อสินทรัพย์โดยตั้งใจจะถือไว้เป็นเวลานานโดยไม่คำนึงถึงความผันผวนของตลาด และจะปล่อยขายเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
การซื้อขาย คริปโทเคอร์เรนซี (crypto) ปลอดภัยหรือไม่?
การลงทุนมีความเสี่ยงอยู่เสมอ แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นหนึ่งในตัวเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงมากขึ้นตามรายงานของผู้บริโภค อย่างไรก็ตามสกุลเงินดิจิทัลก็เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ร้อนแรงที่สุดเช่นกัน และนี่คงเป็นเหตุผลที่นักลงทุนหลาย ๆ คน สนใจมาเทรดกันมากยิ่งขึ้น
การเริ่มต้นการซื้อขาย crypto (คริปโทเคอร์เรนซี) มีค่าใช้จ่ายเท่าไร?
โดยเฉลี่ยแล้วค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปตั้งแต่ 15,000 ถึง 60,000 เหรียญ แต่ก็ยังมี API ของ cryptocurrency ฟรี ที่สามารถใช้ได้ มีบริษัทพัฒนาบล็อกเชนจำนวนมากซึ่งสามารถใช้งานได้ฟรีหรือมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่ต่ำกว่านี้
การซื้อขาย คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ทำกำไรได้หรือไม่?
การลงทุนใน cryptocurrency สามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาล แต่อย่างไรก็ตามก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน คุณสามารถได้เงินหรือสูญเสียเงินจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายความว่าการซื้อขาย crypto เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและอาจเป็นเรื่องยากมากที่จะทำงานภายใต้แรงกดดันอย่างหนักได้
คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ใดดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย?
สกุลเงินดิจิทัลนั้นมีมากมายหลากหลายสกุลเงิน แต่เราขอแนะนำ Ethereum, Litecoin, Ripple, Bitcoin, Bitcoin Cash, Stellar, Cardano, IOTA, NEO, Monero
คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrencies) 3 อันดับแรกคืออะไร?
- BitCoin
- Ethereum
- Ripple
ฉันสามารถรวยจาก Bitcoin ได้หรือไม่?
คุณสามารถเป็นเศรษฐีจากการเทรด BitCoin ได้ แต่คุณต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญและต้องอาศัยจังหวะและโอกาสด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น แผนการเทรดนั้นสำคัญเป็นอย่างมาก หมั่นเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงให้ทันยุคสมัย แล้วคุณจะเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ