กลยุทธ์การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
ในยุคปัจจุบัน ที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ก้าวเข้าสู่ความเจริญเป็นอย่างมาก ค่าเงินและสกุลเงินต่าง ๆ ได้ถูกซื้อขายแลกเปลี่ยนกันผ่านโลกออนไลน์มากขึ้น เพราะนอกจากจะมอบความสะดวกสบายในการซื้อขายแล้ว ยังมีความปลอดภัยมากกว่าอีกด้วย
แต่หลาย ๆ คน ก็เพิ่งก้าวเท้าเข้าสู่วงการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลนี้ เป็นการทำธุรกรรมที่แปลกใหม่ และจำเป็นต้องอาศัยการเรียนรู้ ก่อนที่จะกระโดดเข้าไปในวงการอย่างเต็มตัว
การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลคืออะไร
สกุลเงินดิจิทัล คือ สกุลเงินรูปแบบใหม่ ที่ถูกสร้างขึ้นจากกลไกทางคณิตศาสตร์ และจำเป็นต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์ถอดรหัสเพื่อนำเงินออกจากกลไกบล็อกเชนนั้น ๆ เงินสกุลใหม่ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด คือ บิทคอยน์ (Bitcoin) ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดการรวมศูนย์ของระบบการชำระเงินของสถาบันทางการเงินต่าง ๆ และสามารถกระจายไปยังผู้ใช้ในเครือข่ายสกุลเงินนั้น ๆ ได้ และมีคุณสมบัติของเงินที่ควรจะมีอย่างครบถ้วน เพราะมีมูลค่าคงที่แน่นอน ใช้แทนสกุลเงินท้องถิ่นได้ตามกฎหมาย
เมื่อเวลาผ่านไป บิทคอยน์ ได้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นตามกาลเวลา และได้รับความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้นในวงกว้าง ในแง่ของนักลงทุน จึงมีการเข้ามาลงทุนในเงินสกุลนี้มากมาย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาของตัวบิทคอยน์เอง และค่าเงินสกุลอื่น ๆ มีค่าเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล คือ การซื้อขายและแลกเปลี่ยนค่าเงินในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งดำเนินการในโลกออนไลน์นั่นเอง
Cryptocurrencies ที่โดดเด่น
ในปัจจุบัน บนโลกออนไลน์มีค่าเงินสกุลดิจิทัลมากมาย และสำหรับบิทคอยน์นั้น ถือว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่เก่าแก่ที่สุด มีอายุกว่า 20 ปี
สัญลักษณ์ค่าของเงินดิจิทัลสกุลต่าง ๆ
เราอาจไม่สามารถแสดงรายการสกุลเงินดิจิทัลได้หมด เพราะสกุลเงินดิจิทัลนั้น มีอยู่มากมายถึง 1,500 ชนิด ซึ่งแต่ละสกุลเงินนั้น มีระดับความนิยมและความน่าเชื่อถือที่แตกต่างกันไป แต่บิทคอยน์ ยังถือว่าเป็นเงินดิจิทัลที่แพงที่สุด และเป็นที่นิยมมากที่สุด
สัญลักษณ์ค่าเงินดิจิทัลที่เป็นที่นิยม เมื่อเทียบมูลค่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
- Bitcoin เทียบกับ Dollar : BTC/USD
- Ether เทียบกับ Dollar : ETH/USD
- Bitcoin Cash เทียบกับ Dollar : BCH/USD
- Litecoin เทียบกับ Dollar : LTC/USD
- Ripple เทียบกับ Dollar : XRP/USD
สัญลักษณ์ค่าเงินดิจิทัลที่เป็นที่นิยม เมื่อเทียบมูลค่ากับสกุลเงินยูโร
- Bitcoin เทียบกับ Euro : BTC/EUR
- Ether เทียบกับ Euro : ETH/EUR
- Bitcoin เทียบกับ Euro : BCH/EUR
- Litecoin เทียบกับ Euro : LTC/EUR
- Ripple เทียบกับ Euro : XRP/EUR
แต่นอกจากที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีค่าเงินสกุลดิจิทัลอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Stellar, Cardano, IOTA, NANO และ Monero
ประเภทของการวิเคราะห์การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
นับว่าการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ได้กลายมาเป็นสิ่งที่นักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกให้คววามสนใจ เนื่องจากมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้นในทุก ๆ วัน บวกกับความสามารถในการทำกำไรจากค่าเงินออนไลน์ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่สกุลเงินดิจิทัล ได้กลายมาเป็นจุดสนใจในหมู่นักลงทุน
การวิเคราะห์พื้นฐานการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้
การดูกราฟแบบแผนภูมิ
เป็นเทคนิคที่รวดเร็ว และง่ายที่สุดในการเทรดค่าเงินดิจิทัล เป็นการดูกราฟที่สามารถลากเส้นได้โดยเครื่องมือบนแพลตฟอร์มการซื้อขาย ถือเป็นเครื่องมือหลักที่เหล่านักเทรดต่างใช้เป็นเทคนิคในการวิเคราะห์การซื้อขาย ข้อดีคือสามารถวิเคราะห์ค่าเงินต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน และยังสามารถทำการลากเส้นผ่านจุด 2 จุด ได้ ซึ่งมอบความสะดวกง่ายดายในการวิเคราะห์เทคนิคการซื้อขาย
การใช้กราฟ indicator
การใช้กราฟ indocator จะเป็นกราฟส่งสัญญาณช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการดูเทรนด์ของค่าเงินต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถบอกได้ถึงจุดซื้อขายได้อย่างสะดวกสบาย แต่หากมีความรู้หรือชำนาญในเทคนิคการวิเคราะห์การซื้อขายรายวันสกุลเงินอื่น ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กราฟ indocator นี้ก็ได้ หรือสามารถใช้วิเคราะห์ร่วมกับเทคนิคอื่น ๆ ก็ได้
วิเคราะห์ผ่านกราฟ
กราฟ จะเป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคราคาหลัก โดยมีเส้นกราฟราคาที่เป็นตัวแบ่งค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) เป็นแนวต้าน อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นตัวบ่งบอกแนวรับได้เป็นอย่างดี โดยสามารถทำได้ โดยการเพิ่ม indicator ต่าง ๆ การใช้เทคนิควิเคราะห์ดัชนีความแข็งแรงสัมพัทธ์ (RSI) การซื้อขายนี้ วง Bollinger สามารถบ่งบอกโมเมนตัมและความผันผวนของราคาซื้อขายได้ในอนาคต
ใช้ adx ในการเทรด
อีกหนึ่งเทคนิคที่สามารถเข้าไปใช้งานได้ที่ indicator แล้วเลือก Directional Movement ซึ่งคุณจะเห็นค่ากราฟ 3 เส้น ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกดัชนีทิศทางเฉลี่ยการซื้อขายและราคาพิเศษต่าง ๆ
รายชื่อตัวบ่งชี้ทางเทคนิคหลัก
ตัวชี้วัดทางเทคนิค ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ซื้อขายค่าเงินสกุลดิจิทัลได้ทราบทิศทางและความยั่งยืนของการเคลื่อนไหวของราคาซื้อ ราคาขาย และแนวโน้มภายใน ที่ช่วยให้กรแลกเปลี่ยนซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล สามารถดำเนินไปได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ตัวชี้วัดประเภทต่าง ๆ
ตัวชี้วัดนั้นมีมากมายหลากหลายประเภท ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- ออสซิลเลอเตอร์
ออกแบบมาเพื่อบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มของราคาค่าเงินดิจิทัลสกุลเงินต่าง ๆ โดยตัวออสซิลเลอร์เตอร์ stochastic นั้นจะมีความอิสระ ไม่ขึ้นตรงต่อราคา เป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นแนวโน้ม แต่ไม่ได้มีการบ่งชี้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในทันที
- ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เอกซ์โปเนนเชียล (EMA)
เป็นค่าเฉลี่ยของราคาในช่วงเวลาซื้อขายเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยค่าเฉลี่ยเหล่านี้จะถูกคำนวณจากการบวกราคาปิด แล้วหารผลรวมนั้นด้วยจำนวนราคาที่ใช้ ทิศทางของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ จะแสดงให้เห็นว่าในท้องตลาดนั้นกำลังมีแนวโน้มอยู่ในภาวะตลาดหมีหรือตลาดกระทิง
- แนวรับและแนวต้าน
สังเกตได้จากเส้นแสดงขอบเขต Fibonacci retracement ซึ่งใช้ตัดสินใจด้วยระดับราคา เมื่อเส้นราคาวิ่งเข้าใกล้เส้นแนวรับหรือแนวต้าน มันจะเด้งกลับจากระดับนั้น ๆ และราคาจะเคลื่อนไหวต่อไปในทิศทางตรงกันข้าม แนวรับและแนวต้าน จะทำหน้าที่เหมือนพื้นและเพดาน โดยมีการตัดสินใจเรื่องราคาเป็นตัวกำหนดขอบเขต กลยุทธ์หุ้นเหนือเมฆ Ichimoku จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สำคัญ
- การทวนกลับ
เป็นความเชื่อของนักวิเคราะห์ตลาด crypto ว่ามักจะมีการทวนกลับราคาขึ้นและลงอยู่เป็นประจำ ตัวชี้วัดนี้ถูกใช้เพื่อระบุการเคลื่อนไหวที่เป็นไปได้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อแนวโน้มปัจจุบันสิ้นสุดลง และเกิดแนวโน้มใหม่ในทิศทางตรงกันข้าม
กลยุทธ์การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลขั้นพื้นฐาน
สำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่เพิ่งเข้าสู่วงการการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ก่อนอื่นนั้น คุณจำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลให้มากพอในระดับหนึ่ง เพราะการซื้อขาย cryptocurrency วันนี้ เปรียบเสมือนการลงทุน ที่จำเป็นต้องแบกรับความเสี่ยงในการซื้อขาย และในวันนี้ เราก็ได้รวบรวมกลยุทย์และเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลขั้นพื้นฐานมากฝากสำหรับใครที่เพิ่งเป็นหน้าใหม่ในวงการบิทคอยน์
การเริ่มต้นทำการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ควรเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจตัวเลือกต่าง ๆ ที่มีให้ โดยกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด มีดังนี้
1. ซื้อและถือ
นับจากเริ่มก่อตั้งค่าเงินสกุลดิจิทัล “บิทคอยน์” เราจะเห็นได้ว่าค่าเงินนั้นมีการเพิ่มมูลค่ามากขึ้นในทุก ๆ ปี นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เหล่านักลงทุนมองว่าการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลนั้น ถือเป็นการลงทุนในระยะยาวที่มอบโอกาสการสร้างกำไรได้อย่างมหาศาล แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินการซื้อและถือค่าเงินสกุลดิจิทัล จำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
การดำเนินการซื้อสกุลเงินดิจิทัล คุณต้องมีบัญชีแลกเปลี่ยนออนไลน์ และบัญชีของคุณนั้นจะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของคุณเองทั้งหมด เนื่องจากไม่มีธนาคารเข้ามาเกี่ยวข้องในการจัดการเงิน เก็บบัญชี และรักษาความปลอดภัยให้แก่บัญชีของคุณ
2. การซื้อขายบนตลาดแลกเปลี่ยนค่าเงินดิจิทัล
หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าการเก็งกำไรราคาค่าเงินแลกเปลี่ยนค่าเงินสกุลดิจิทัลผ่านตลาดแลกเปลี่ยน และหน้าที่ของผู้ทำการซื้อขายก่อนดำเนินการใด ๆ คือการประเมินความเสี่ยงของตลาดแลกเปลี่ยนเสียก่อน เนื่องจากตลาดแลกเปลี่ยนออนไลน์นั้น ไม่ได้มีองค์กรใดเข้ามากำกับดูแลการดำเนินการ ดังนั้น คุณจึงควรต้องศึกษาความเสี่ยงทางการเงินและประเมินความปลอดภัยก่อนลงมือเปิดบัญชีและทำการโอนเงิน
3.ทำการซื้อขายกับโบรกเกอร์
เป็นทางเลือกสำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนค่าเงินดิจิทัลที่มอบความปลอดภัยสูง และเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ข้อดีคือง่าย สะดวกสบาย ไม่ยุ่งยาก เพราะส่วนใหญ่แล้วบริษัทโบรกเกอร์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการซื้อขายค่าเงินสกุลดิจิทัล มักจะมีการรับประกันด้านความปลอดภัยของบัญชีและทรัพย์สิน
การสร้างกลยุทธ์การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
สำหรับนักซื้อขายค่าเงินดิจิทัลมือใหม่ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเริ่มต้นเรียนรู้กลยุทธ์การการซื้อขายจากผู้ซื้อขายคนอื่น ๆ แต่เมื่อเริ่มคุ้นเคยกับการซื้อขายแล้ว ก็จะเริ่มสร้างกลยุทธ์การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลด้วยตัวเอง ข่าวดีก็คือสร้างกลยุทธ์การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลนั้น สามารถทำได้อย่างง่ายดาย แต่ข่าวร้ายคือสร้างกลยุทธ์การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลให้ประสบความสำเร็จนั้น ทำได้ยาก
แต่อย่างไรก็ตาม การสร้างกลยุทธ์การซื้อขาย สามารถทำได้ ด้วยขั้นตอน ต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1: สร้างแนวคิดทางการตลาดของคุณเอง
ก่อนที่คุณจะเริ่มสร้างกลยุทธ์การซื้อขายทั่วไปที่ใช้งานอยู่ของคุณเอง คุณต้องพัฒนาแนวคิดว่าตลาด cryptocurrency ในนิยามของคุณนั้น ทำงานอย่างไร คุณอาจจะเลือกใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ passive หรือ active ทั้งหมดทั้งมวล ขึ้นอยู่กับคุณ
สร้างอุดมการณ์ทางการตลาดของคุณ โดยการวิเคราะห์อย่างกว้างขวาง ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการวิเคราะห์ ทั้งทางเทคนิคและพื้นฐาน หลีกเลี่ยงความคิดและความเชื่อเกี่ยวกับการรวบทางลัด นึกถึงอุปสงค์และอุปทาน
ขั้นตอนที่ 2: เลือกตลาดสำหรับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
ไม่ว่าจะเป็น Forex ตราสารทุน ตัวเลือกออพชั่น หรือฟิวเจอร์ หากคุณเลือกที่จะทำการซื้อขายตำแหน่งบนฟอเร็กซ์ โปรดทำความเข้าใจว่าคุณกำลังซื้อและขายอะไร ด้วยการพิจารณาราคาสกุลเงิน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์อย่างละเอียดถี่ถ้วน และรู้วิธีคำนวณกำไร
ประเด็น คือ มีหลายสิ่งหลายอย่างให้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับตลาดแต่ละแห่ง แต่คุณไม่สามารถเริ่มเรียนรู้เชิงลึกได้ จนกว่าคุณจะเลือกตลาดซื้อขายของคุณเอง
กฎข้อเดียว คือ คุณต้องเข้าใจตลาดที่คุณเลือกทำการซื้อขาย
ขั้นตอนที่ 3: เลือกกรอบเวลาการซื้อขาย
ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อขายใด ๆ คุณอาจจะตัดสินใจเลือกกรอบเวลาการซื้อขายได้ยาก ดังนั้น ลองเริ่มต้นโดยพิจารณาสถานการณ์ของคุณ หากคุณมีเวลาเฝ้าดูตลาดเป็นระยะเวลานาน ให้ลองซื้อขายระหว่างวัน แต่หากคุณไม่สามารถดูตลาดเป็นระยะเวลานานได้ ให้ลองเริ่มต้นด้วยแผนภูมิเมื่อจบวัน หลังจากนั้นคุณจะตัดสินใจว่ากรอบเวลาแบบไหนที่เหมาะสมกับคุณ แต่ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายระยะสั้นหรือการซื้อขายระยะยาว เลือกให้เหมาะสมกับตัวเองให้ได้มากที่สุด
ขั้นตอนที่ 4: เลือกเครื่องมือเพื่อกำหนดแนวโน้ม
ตัดสินใจเลือกเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณตัดสินบริบทของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการเลือกเครื่องมือการเคลื่อนไหวของราคา เช่น การซื้อขายสวิง การซื้อขายแบบร่อน และเส้นแนวโน้ม นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคต่าง ๆ ได้ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่คอนเวอร์เจนซ์ไดเวอร์เจนซ์ (MACD)
ขั้นตอนที่ 5: กำหนดความเสี่ยงของคุณ
มีเพียงคุณเท่านั้น ที่รู้ว่าตัวคุณเองสามารถแบกรับความเสี่ยงได้มากขนาดไหน ลองพิจารณาจากงบประมาณ ความผันผวนของค่าเงิน และตลาด ระยะเริ่มแรก อาจเริ่มต้นดำเนินการให้เสี่ยงน้อยที่สุด เพื่อเป็นการศึกษาและสำรวจตลาด แต่เมื่อคุ้นชินมากขึ้น คุณสามารถปรับระดับและกำหนดความเสี่ยงของคุณได้ในภายหลัง
ขั้นตอนที่ 6: เขียนกฎการซื้อขายของคุณเอง
ในขั้นตอนนี้กลยุทธ์การซื้อขายของคุณจะเป็นเรื่องง่ายกว่าขั้นตอนต่าง ๆ ที่กล่าวไป คุณอาจจะจำกฎการซื้อขายได้ แต่อย่างไรก็ตาม คุณยังจำเป็นต้องเขียนกฎการซื้อขายวงเงินของคุณเป็นลายลักษณ์อักษร
การมีแผนการซื้อขายเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะมีวินัยและมีความสม่ำเสมอในการซื้อขาย
ขั้นตอนที่ 7: ทบทวนกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
ด้วยกฎที่เป็นลายลักษณ์อักษรคุณสามารถทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลังได้ และสามารถทบทวนได้ว่ามีตรงไหนที่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ ควรหมั่นทบทวนกลยุทธ์การซื้อขายค่าสกุลเงินดิจิทัลของคุณเป็นประจำ เพราะตลาดมักมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การอัปเดตให้ทันสมัยล่าสุด จะช่วยให้การซื้อขายของคุณดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
จะสร้างกลยุทธ์การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างไร?
การสร้างกลยุทธ์การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เริ่มต้นจากการศึกษาตลาด ค่าเงิน และรายละเอียดต่าง ๆ อย่างครบถ้วน จากนั้นสร้างแนวคิดทางการตลาดของคุณเอง เลือกตลาดที่คุณต้องการทำการซื้อขาย เลือกกรอบเวลาและเครื่องมือ กำหนดความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้ จากนั้นศึกษาทบทวนกลยุทธ์ของคุณ และอัปเดตให้ทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์เสมอ
กลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย crypto คืออะไร?
กลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลนั้น มีความแตกต่างกันออกไป ตามแต่ความถนัดของแต่ละบุคคล Buy The Dip ถือเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่นักลงทุน นั่นก็คือ นักลงทุนควรเข้าเมื่อราคาลดลง หากพวกเขาเชื่อว่าแนวโน้มปัจจุบันจะยังคงอยู่
ข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ Buy The Dip นั้น จะสามารถใช้งานได้ตราบเท่าที่แนวโน้มโดยรวมยังคงเป็นขาขึ้น
ฉันสามารถเสี่ยงกับเงินฝากได้กี่เปอร์เซ็นต์?
ก่อนที่คุณจะเปิดบัญชี ฝากเงิน หรือดำเนินการใด ๆ สิ่งแรกที่คุณควรตระหนักถึงคือการแบกรับความเสี่ยงของการลงทุน ราคาของบิทคอยน์นั้น มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการซื้อขายในท้องตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นนักลงทุนรายย่อย อาจจต้องระวังเรื่องความเสี่ยงจากนักลงทุนรายใหญ่เจ้าต่าง ๆ
สำหรับคำตอบที่แน่ชัดนั้น ไม่สามารถให้เป็นตัวเลขที่แน่นอนได้ แต่ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และวิธีการซื้อขายและความสามารถในการแบกรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล
ฉันควรซื้อขายล็อตขนาดใด?
วิธีการเลือกขนาดการซื้อขายของคุณ ให้พิจารณาที่ขนาดล็อตคงที่ เปอร์เซ็นต์ของทุน และเปอร์เซ็นต์ของทุนกับการหยุดการสูญเสีย stop loss ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณควรเลือกทางเลือกที่คุณสะดวกมากที่สุด การทราบขนาดการซื้อขายจะช่วยให้คุณมีวินัยในการซื้อขาย รู้ว่าช่วงไหนควรหยุดขายหรือหยุดซื้อ จำกัด และรู้จักบริหารความเสี่ยงมากยิ่งขึ้
วิธีกำหนดเป้าหมายวัตถุประสงค์การวัดผล (ผลกำไรที่อาจเกิดขึ้น)?
วิธีกำหนดเป้าหมายการวัดผลนั้น สามารถทำได้โดยการกำหนดเป้าหมายที่สามารถเป็นจริงได้ กับเป้าหมายที่ไม่สามารถเป็นจริงได้ พูดง่าย ๆ คือ ฝันให้ใหญ่เข้าไว้ แล้วเดินไปให้สุด แต่ไม่ควรต่ำกว่าเป้าหมายแห่งความเป็นจริง เมื่อคุณกำหนดเป้าหมายให้สอดคล้องกับความสามารถตามความเป็นจริงของคุณ คุณจะทราบได้คร่าว ๆ ว่าเป้าหมายของคุณมีค่าใช้จ่ายเท่าใด ต้องลงทุนเท่าไหร่ต่อเดือน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น อย่างไรก็ตาม คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณมีแผนสำรองไว้เสมอ